แนะนำหนังสยองขวัญ : The Offering การชันสูตรปีศาจที่ผิดพลาดจนถึงตาย

ย้อนกลับไปในช่วงหลายปีก่อน ได้มีเกมสยองขวัญหนึ่งเกมปล่อยออกมาแล้วเป็นกระแสยอดฮิตอย่างมากบนช่อง Youtube ของคนดังมากมาย กับ The Mortuary Assistant ที่จะบอกเล่าเกี่ยวกับ การทำอาชีพชันสูตรศพ ที่ต้องบอกเลยว่าน่าสนใจ จนผู้เขียนได้มีโอกาสไปพบกลับหนังที่มีเนื้อเรื่องสไตล์ใกล้เคียงกันอย่าง The Offering มันสิงอยู่ในร่าง โดยตัวหนังมาพร้อมเอกลักษณ์ที่จะเน้นวัฒนธรรมความเชื่อของยิว มีการอ้างอิงถึงสิ่งมีชีวิตที่ชั่วร้ายอย่างซาตาน  ตัวหนังจะเน้นหนักไปทางกลิ่นอายความเชื่อ เรื่องราวของหนังเรืองนี้จะมีอะไรติดตามและน่าสนใจ Ghost of Thailand จะพาไปดูกันครับ

การเผชิญหน้าของความเชื่อและซาตานที่มาในรูปแบบใหม่

เรื่องราวหนัง มันสิงอยู่ในร่าง จะเล่าผ่านตัวละครอย่าง อาเธอร์ หนุ่มชาวยิว ที่เหมือนจะไม่ชอบธุรกิจของที่บ้าน เพราะทำเกี่ยวกับการชันสูตรศพ เขานั้นได้เดินทางกลับบ้านเกิด มาเพื่อสานสัมพันธ์ความเป็นพ่อลูกมากขึ้น รวมถึงหญิงสาวที่กำลังท้องแก่ ที่ต้องมามรส่วมรวมเหตุการณ์สยองขวัญนี้ แต่แล้วก็มาคืนหนึ่งที่จะเปลื่ยนชีวิตพวกเขาไป เพราะตัวศพนั้นมีสภาพที่ผิดปกติ มีบาดแผลการโดนแทงด้วยตนเอง

แต่เหมือนกับว่ามันจะมีข้อมูลลับ เพราะมีดที่ใช้แทง ไม่ใช่มีดที่ธรรมดา แต่มันมีความสามารถในเรื่อ พอยิ่งค้นข้อมูล ก็ยิ่งพบเจอกับสิ่งเลวร้ายมากขึ้น โดยพวกเธอจะสามารถเอาตัวรอดจากเหตุการณ์เหล่านี้ได้หรือไม่ โดยในดินแดนตะวันออกใกล้และยุโรป ได้มีความเชื่อเกี่ยวกับวัฒนธรรมชาวยิว เกี่ยวกับปีศาจที่มีเป้าหมายคือการรับเครื่องสังเวยเด็ก นามว่า อะบีซู ที่มีตัวตนเป็นปีศาจแพะ หิวโหยวิญญาณของเด็กที่ยังไม่เกิด

ความเป็นมาของปีศาจอะบีซู

ว่ากันว่าอะบีซูมีจุดเริ่มต้นมาก่อนที่จะมีศาสนาเกิดขึ้นเสียอีก โดยความน่ากลัวของมันถูกเล่าผ่านภาพวาด การบอกเล่า ในความเชื่อของชาวยิว มักมีเป้าหมายคือการออกล่าคนที่กำลังตั้งครรถ์ โดยในหนังก็สามารถบอกเล่าโดยอิงจาก เนื้อหาของประวัติศาสตร์ได้อย่างชัดเจน

จุดสังเกตที่น่าสนใจของหนัง The Offering

ตัวหนังสามารถดึงความน่ากลัวของปีศาจร้ายออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ผสมผสานกับจุดเด่นในการเล่าเรื่อง ทำให้เรารู้สึกได้เลยว่าปีศาจตัวนี้มันน่ากลัวมากจริงๆ มีทั้งความร้ายกาจ เจ้าเล่ห์ รวมทั้งยังแฝงไปด้วยวัฒนธรรมต่างๆของชาวยิว รวมถึงฉากจบของหนังเรื่องนี้ มันทำเอาเราต้องร้องอุทานกันอย่างแน่นอน ที่สำคัญการดำเนินเรื่องราวภายในหนังก็มีความสมเหตุสมผล

ความเชื่อ ความศรัธา ต่อพระเจ้า ของชาวยิว ถ่ายทอดออกมาได้อย่างหนักแน่น เราจะได้เห็นเลยว่า แม้คุณจะเชื่อในศาสนาแค่ไหน แต่วันที่คุณจิตใจแตกสลาย ก็ต้องเลือกไปหันพึ่ง ความชั่วร้าย จนกลายเป็นเหตุการณ์สลด ที่ไม่พูดถึงเลยก็คงไม่ได้ ก็เป็นในส่วนของการเล่าประวัติศาสตร์ ที่อยากจะให้เจาะลึกมากกว่า การชันสูตรศพ ที่อยากให้มีซีนมากขึ้น แต่เชื่อเลยว่าคนไหนที่หากได้ลองมารับชม ก็ต้องประทับใจหนังเรื่องนี้อย่างแน่นอน แต่ถ้าหากคุณไม่ได้เป็นสาย Slow burn ก็อาจจะไม่ถูกใจ