The Empty Man มาถึงคิวหนังสยองขวัญที่ต้องบอกเลยว่ามีไอเดียน่าสนใจไม่น้อย โดยหนังมี เรื่องย่อ ที่เมืองเล็ก ๆ อย่างมิดเวสเทิร์น เริ่มมีข่าวการหายตัวไปอย่างลึกลับของกลุ่มวัยรุ่น ชาวบ้านต่างเชื่อกันว่าการหายตัวนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับตำนาน Empty Man ที่เล่าขานกันมาตั้งแต่อดีต เจมส์ ตำรวจวัยเกษียณจึงพยายามสืบหาข้อพิสูจน์เพื่อจะอธิบายเหตุการณ์การหายตัวนี้ ซึ่งทำให้เขาได้พบกับกลุ่มลัทธิและเข้าไปพัวพันกับสิ่งลี้ลับ Ghost of Thailand จะมาเเนะนำให้รู้จักกัน
ตำนานลี้ลับของนิยาย The Empty Man
จนมันอาจจะกลายเป็นปัญหาได้ ต่อมาในไม่ช้า ชีวิตของเขารวมถึงผู้คนรอบตัวเขาก็ต่างตกอยู่ในอันตรายที่ไม่อาจคาดถึง ต้องเอ่ยปากชมเลยว่าที่ผ่านมา ไม่ค่อยได้เห็นหนังผีหรืออย่างน้อยก็หนังสยองขวัญ ที่อิงมาจากคอมิกหรือกราฟิกโนเวลนัก เมื่อทราบว่า The Empty Man ได้นำมาจากกราฟิกโนเวลผลงานของ คัลเลน บันน์ จากค่าย Boom! Studios ก็รู้สึกหนังมีความน่าสนใจขึ้นมาทันที โดยรายละเอียดหนังเรื่องนี้น่าสนใจแค่ไหนไปลองดูกัน บอกเลยว่าน่าสนใจอย่างแน่นอนครับ
หลังจากการได้รับชมตัวอย่างหนังก็เกิดความคาดหวังไปทางหนึ่งว่านี่น่าจะเป็นหนังแนวผีตามสูตรนิยมอีกเรื่อง ที่มีความเชื่อล่องลอยเป็นตำนานเมืองอยู่ว่าหากเจอขวดเปล่ากลางสะพาน ให้นำมาเป่าปากขวดให้เกิดเสียง แล้วคิดถึงเอ็มป์ตีแมน หลังจากนั้นคืนแรกจะได้ยินเสียงเอ็มป์ตีแมน
คืนต่อมาจะได้เห็นเอ็มป์ตีแมน และคืนสุดท้ายเอ็มป์ตีแมนจะมาคร่าชีวิตผู้ที่ท้าทายนั้น ทว่านั่นเป็นเพียงส่วนเสี้ยวมาก ๆ ของเนื้อหาจริง ๆ ที่ The Empty Man เสิร์ฟให้ผู้ชม จนอาจพูดได้ว่านี่เป็นเซอร์ไพรส์แบบผิดฝาผิดตัวแต่ดันรู้สึกดีไปอีกแบบเหมือนกัน เราไม่สามารถคาดเดาและคาดหวังรายละเอียดต่างๆของหนังได้เลยแม้แต่น้อย
แท้จริงแล้วจริงแล้วเนื้อหาหลักของหนังเกี่ยวกับอะไร? ตัวอย่างของหนังมันก็ไม่ได้อธิบายมากนักแม้ต้นเรื่องของหนังจะจั่วหัวด้วยเรื่องเล่าขนาดสั้นของชายหญิง 4 คนที่ไปปีนเขาในภูฏานและหนึ่งในนั้นก็ตกในโพรงลึกและพานพบกับซากคล้ายมนุษย์ที่แปลกประหลาด หลังจากนั้นชายคนดังกล่าวก็เกิดอาการประหลาดเหม่อลอยไร้สติ พร่ำพูดแต่ทุกคนจะต้องตาย ปรากฏว่าหลังจากนั้นสมาชิกคนอื่่น ๆ ของกรุ๊ปก็เริ่มเจอประสบการณ์ชวนผวาตลอด 3 คืนบนภูเขาสูงไร้ผู้คน.. ต้องบอกว่าเป็นหนังสั้นจั่วหัวที่ได้อารมณ์หลอนสุด ๆ ทั้งยังความงงงวยสงสัยได้ดีเยี่ยม แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าตัวหนังก็สนุกใช้ได้เลยทีเดียว
จากนั้นการดำเนินเรื่องแบบจริงจังก็เริ่มขึ้นข้ามเวลามาอีก 23 ปีถัดมา และเริ่มเรื่องราวของ อแมนดา (ซาชา โฟรโลวา) หัวโจกสาววัยรุ่นที่พาเพื่อนมาท้าทายตำนานของเอ็มป์ตีแมน และจากนั้นไม่นานตัวเธอก็หายไป ร้อนถึงแม่ของเธอต้องวานให้เพื่อนชายคนสนิทอย่าง เจมส์ (เจมส์ แบดจ์ เดล) อดีตตำรวจที่สูญเสียภรรยาและลูกไปในอุบัติเหตุ ช่วยออกตามหาอแมนดา และยิ่งเจมส์ได้สืบถามเพื่อน ๆ ของเธอ
ก็ยิ่งพบว่าเด็กทั้งกลุ่มที่ไปพิสูจน์ความเชื่อต่างหายตัวไปอย่างเป็นปริศนา และหนังหลังจากนั้นก็แทบเรียกว่าเป็นหนังสืบสวนที่มีกลิ่นความเชื่อ ลัทธิประหลาด ความสยองขวัญสไตล์ของเลิฟคราฟต์คอยโอบคลุมไว้ ยิ่งมองลึกลงไปก็ยิ่งเต็มไปด้วยความน่าสงสัยน่าติดตามมากขึ้นเท่านั้น ถ้าหากคุณเป็นสาวกนิยายเลิฟคราฟต์บอกเลยว่าไม่ควรพลาด