ย้อนไปเมื่อ 15 ปี ที่แล้ว ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ คือภาพยนตร์เรื่องแรกๆวงการหนังผีไทยในนาม GTH ที่รวมตัวกันระหว่าง ไท เอ็นเตอร์เทนเมนต์, หับโห้หิ้น ฟิล์ม และจีเอ็มเอ็ม พิคเจอร์ส ที่เปลี่ยนแนวจากหนังฟีลกู๊ดอย่าง แฟนฉัน มาเปิดตัวด้วยภาพยนตร์สยองขวัญที่แจ้งเกิดให้ โต้ง-บรรจง ปิสัญธนะกูล (สี่แพร่ง, ห้าแพร่ง, พี่มาก..พระโขนง) และโอ๋-ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ (แฝด, Homestay) กลายเป็นผู้กำกับหนังสยองขวัญที่น่าจับตาในเวลาต่อมา แม้แต่ในปัจจุบัน หนังเรื่องนี้ก็ยังคงเป็นหนังที่หลายคนชื่นชมจากใจ ว่าเป็นหนึ่งในหนังสยองขวัญอันดับต้นๆตลอดกาล
ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ เล่าเรื่องของธรรม์ (รับบทโดยอนันดา เอเวอริงแฮม) ช่างภาพหนุ่ม และเจน (รับบทโดย จ๋า-ณัฐฐาวีรนุช ทองมี) แฟนสาว ที่เริ่มพบเหตุการณ์ประหลาดจากภาพถ่ายที่มีเงาสีขาวคล้ายใบหน้าผู้หญิงติดอยู่ในนั้น ระหว่างการตามหาว่าปริศนาในรูปภาพนั้นคืออะไร ความลับดำมืดที่ธรรม์ซุกซ่อนเอาไว้ พร้อมกับความสยองขวัญที่ทำให้คนดูต้องกลับไปเพ่งมองรูปถ่ายของตัวเองด้วยสายตาแบบใหม่ก็เริ่มต้นขึ้น จนสุดท้ายได้พบว่านี้คือวิญญาณที่คอยตามอาฆาตเขา นี้คืออีกหนึ่งผลงานชิ้นเอกที่ Ghost of Thailand อยากจะแนะนำให้รู้จักกัน
ความสนุกอย่างแรกของ ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ อยู่ที่การไม่ได้โฟกัสไปที่ฉาก Jump Scare โฉ่งฉ่างระหว่างปล่อยให้ ‘ผี’ ออกอาละวาดไปเรื่อยๆ ทุกการโดนหลอกของตัวเอก มักจะทิ้งปมความสงสัยไว้ เป็นการให้คนดูที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ค่อยๆ ไขปริศนาของธรรม์ให้เปิดเผยขึ้นมา และยิ่งเราล่วงรู้ความลับของธรรม์มากเท่าไร ก็ยิ่งทำให้เรารู้สึกหลอนไปกับสิ่งที่ธรรม์ต้องเจอมากขึ้นเท่านั้น เป็นการไล่ระดับความกลัวได้อย่างสุดยอด ซึ่งปมทั้งหมดที่สร้างขึ้นมาในเรื่องนี้ มันเป็นอะไรที่ลงตัวแบบสุดๆ
นอกจากนี้ในหนังชัตเตอร์ยังมี ฉากจำ’ หลายฉากที่ออกแบบการปรากฏตัวของผีได้เป็นอย่างดี เป็นการนำเสนอที่ฉลาดอย่างมาก ตั้งแต่ใบหน้าเปลือยเปล่าของเนตร (รับบทโดย เฟี้ยว์ฟ้าว สุดสวิงริงโก้ ที่ตอนนั้นยังใช้ชื่อว่า อชิตะ วุฒินันท์สุระสิทธิ์) ที่หลอนตั้งแต่ยังไม่กลายเป็นผี ฉากที่ธรรม์ถูกผีคลานตามล่าจนหัวซุกหัวซุน ทุกๆ ฉากในห้องมืด ที่ใช้สัญญะของ ‘สีแดง’ ที่หมายถึงความอันตรายมาเล่นกับความรู้สึกคนดูได้อย่างน่าขนลุก ฉากอ่างอาบน้ำ ที่ทำให้หลายคนไม่กล้าเข้าห้องน้ำไปอีกหลายวัน แน่นอนว่าผู้เขียนก็หนึ่งในนั้น รวมถึงฉากจบที่ขึ้นหิ้งเป็นตำนานสุดคลาสสิกมาจนถึงทุกวันนี้
นอกจากนี้ ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ ยังใช้ ‘ผี’ เป็นภาพสะท้อนปัญหาของสังคมในขณะนั้นได้อย่างเฉียบขาด ทั้งปัญหาระดับชั้นทางสังคม รุ่นน้องต้องเชื่อฟังรุ่นพี่ และต้องทำทุกอย่างเพื่อให้เป็นที่ยอมรับในสังคม รวมทั้งปัญหาการกดขี่เพศหญิง ที่ไม่ว่าจะถูกกระทำอย่างเลวร้ายเท่าไร ก็ไม่อาจมีปากมีเสียงหรือต่อรองใดๆ ได้เลย ดูแล้วก็แอบน่าหดหู่ใจไม่น้อย จนกระทั่งต้องรอให้ตัวเองจากโลกนี้ไปกลายเป็น ‘ผี’ นี่ล่ะ ที่โลกหลังความตายถึงจะมอบอำนาจในการเอาคืนให้กับเธอ เรียกได้ว่าเป็นแรงแค้นที่สะสมกันมา
ด้วยองค์ประกอบทั้งหมดที่สมบูรณ์แบบ ทำให้ GTH เปิดตัวหนังเรื่องแรกไปได้อย่างสวยงาม ด้วยรายได้ทั่วประเทศ 107.1 ล้านบาท มี 30 ประเทศมาขอซื้อลิขสิทธิ์ไปฉายต่อ รวมทั้งการถูกนำไปสร้างใหม่ในเวอร์ชันฮอลลีวูด โดยผู้กำกับชาวญี่ปุ่น มาซายูกิ โอชิอาอิ แต่ก็ยังห่างไกลจากเวอร์ชันต้นฉบับอยู่พอสมควร น่าเสียดายที่พวกเขาไม่สามารถถ่ายทอดความน่ากลัวเวอร์ชั่นไทยเราไปได้ แน่นอนว่าถึงวันนี้ ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ ยังคงขึ้นแท่นเป็นหนังผีอันดับต้นๆ เมื่อมีคนถูกถามว่า ‘หนังผี’ ที่น่ากลัวที่สุดคือเรื่องอะไร