เราคงเคยเห็นตัวอย่างแบบโลกสวยไปแล้วถ้าสิ่งมีชีวิตที่หน้าคาคล้ายกับเด็กผู้ชายที่มาจากนอกโลก ได้เติบโตพร้อมอาศัยกับเพื่อนร่วมโลก มันมีเส้นทางที่สวยงามแค่ไหน อย่างไรก็ตามถ้าหากทุกสิ่งมันสวนทางกัน ? เขาไม่ได้มาเพื่อเป็นฮีโรแก่มนุษยชาติ แต่เพื่อเป็นจุดสูงสุดของห่วงโซ่ วันนี้ Ghost of Thailand ยินดีที่จะได้แนะนำอีกหนึ่งในหนังสยองขวัญที่มีไอเดียการสร้างสรรค์ที่ไม่ธรรมดา Brightburn จากผลงานวิสัยทัศน์ของผู้สร้าง Guardians of the Galaxy และ Slither ที่ต้องการจะนำเสนอผลงาน หนังแนวซุปเปอร์ฮีโร้ ให้มันมีกลิ่นอายความสยองขวัญ อยากให้ทุกคนลองจินตนาการตาม ว่ามันเป็นอย่างไร ถ้าหากเด็กที่ต้องโตมาเหมือนกับ Superman กับทำทุกอย่างสวนทางกัน รายละเอียดของหนังเรื่องนี้จะน่าสนใจแค่ไหน มาลองรู้จักกันครับ
ไอเดียความสร้างสรรค์จากมุมมองของ Jame Gun
เรื่องราวภาพรวมทั้งหมดของ Brightburn จะเป็นการนำไอเดียของหนังซุปเปอร์ฮีโร่ยอดฮิตอย่าง Superman มาดัดแปลงเรื่องราว โดยใช้ความคิดว่าถ้าหากทุกอย่างมันสวนทางกัน มันเป็นเช่นไร ซึ่ง Jame Gun ได้มอบหมายหน้าที่ทั้งหมด ไบรอัน กันน์ (Brian Gunn) และลูกพี่ลูกน้องอย่าง มาร์ก กันน์ (Mark Gunn) ทำหน้าที่เขียนบท นอกจากนี้ยังได้หนังแสดงที่รู้มือกันอย่างดีอย่าง อลิซาเบธ แบงส์ (Elizabeth Banks) ที่เคยร่วมงานกันตั้งแต่หนัง Slither (2006) กลับมาร่วมงานและรับบทนำสำคัญอย่างแม่ของเด็กชายตัวร้ายในเรื่องด้วย ทำให้มั่นใจได้เลยว่า งานนี้การันตีคุณภาพ
เรื่องราวโหดดิบ ฉากโหดสะใจ
ต้องยอมรับว่าการมาของ Brightburn เป็นอะไรที่ดึงดูดแฟนหนังได้อย่างยอดเยี่ยมเพราะที่ผ่านมา เราจะไม่ค่อยเห็นหนังที่นำเสนอแบบนี้ ยิ่งพอได้รับชมจริงๆก็ยิ่งไม่ผิดหวัง หนังเรื่องนี้ทำออกมาได้บันเทิงครบรส ตามที่เราคาดหวังได้อย่างดี ตัวอย่างมีการคุมโทนอยู่หมัดตั้งแต่ แบรนดอน ไบรเยอร์ (แจ๊กสัน เอ. ดูนน์ – Jackson A. Dunn) ทารกน้อยผู้มาพร้อมยานอวกาศลึกลับที่โตขึ้นมาอย่างเรียบง่าย จืดชืด ไม่โดดเด่น ในย่านชนบทอย่างเมืองไบรท์เบิร์น (อันเป็นชื่อเรื่อง ราวกับจะล้อเลียนซีรีส์ซูเปอร์แมนอย่าง Smallville) แต่เขาก็ต้องพบเจอกับชีวิตในโรงเรียนที่ไม่มีความสุขสักเท่าไร ต้องถูกรังแกจากคนในโรงเรียน
ส่วนด้านสยองขวัญถือว่าทำออกมาได้ดีตามาตรฐาน แต่ก็จัดว่าดี ฉากที่แบรนดอนจู่โจมคนนั้นก็เป็นแค่การแว้บไปมาเหมือนพวกผีหรือฆาตกรในหนังเชือดทั่วๆไป แต่การที่แบรนดอนมีพลังพิเศษแบบซูเปอร์แมนก็ทำให้บางฉากดูน่าสนใจดี โดยเฉพาะฉากท้ายเรื่องที่แบรนดอนอาละวาดเต็มพิกัดนั่นแหละ แถมฉากการฆ่าแต่ลครั้งของแบรนดอนก็ทำออกมาโหด น่ากลัวชวนอี๋แหวะเอาเรื่องเหมือนกัน การฆ่าของเขามันไร้ปรานี ไม่มีความเมตตา
Brightburn จัดว่าเป็นหนังสยองขวัญไซไฟที่คอนเซ็ปต์น่าสนใจทีเดียว แม้ว่าหลายๆอย่างจะดูเล่นง่าย แต่มันก็นับเป็นเรื่องดีที่สามารถย่อยง่ายเสพง่าย แต่ประเด็นดราม่าครอบครัวที่เป็นอุทธาหรณ์ให้กับพ่อแม่ที่ละเลยการดูแลสภาพจิตใจเด็ก และฉากสยองที่ทำให้ออกมาได้น่ากลัวและโหดดี ก็ทำให้เราลุ้นและระทึกไปกับมันได้มากทีเดียว เพราะอะไรจะน่ากลัวไปกว่าเด็กชายซูเปอร์แมนโรคจิตที่ใช้พลังเหนือมนุษย์ทำร้ายผู้คน โดยที่เขายังไม่สามารถควบคุมพลังตัวเองได้ด้วยซ้ำ นี้เลยเป็นอีกหนังที่มีรสชาติเเปลกใหม่ ที่คุณไม่ควรพลาดกับ Brightburn