เป็นอีกหนังที่สร้างกระแสสังคมอย่างมาก กลายเป็นดราม่าแบบข้ามคืนกันเลยทีเดียว โดย อาบัติ ยังเป็นหนังไทยที่เคยเป็นประเด็นอื้อฉาวในสังคมเบาๆ จนทำให้เกือบจะไม่ได้เข้าฉาย เพราะตัวหนังมีเรื่องราวที่ตีแผ่เรื่องราวในแวดวงพระสงฆ์ที่ค่อนข้างละเอียดครั้งหนึ่งในวงการหนังไทยเลยทีเดียว แม้จะจะเป็นหนังที่มีเจตนาดีในการนำเสนอแง่มุมที่แปลกใหม่แต่เนื้อหาที่ค่อนข้างล่อแหลมของหนังก็ค่อนข้างสร้างความเป็นกังวลและเกิดคำถามมากมายสังคมพอสมควร จนกลายเป็นที่ถกเถียงมานมนาน
ตั้งแต่เทรลเลอร์ “อาบัติ” ถูกปล่อยออกมาใหม่ๆ ว่าบังควรหรือไม่บังควร ดูหมิ่นหรือทำลายศาสนาหรือไม่ อย่างไร แล้วมิหนำซ้ำ ต่อมา ก่อนการฉายรอบสื่อมวลชนเพียงหนึ่งวัน หนังก็ถูกกระทรวงไดโนเสาร์ถอดออกจากโปรแกรมฉายอย่างกะทันหันสายฟ้าแล่บ รวมถึงยังโดนทัวร์ลงจนมีแฟนหนังแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม จนเป็นกระแสโจษจันกันทั่วประเทศ แม้ว่าจะเต็มไปด้วยดราม่า แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า อาบัติ เป็นอีกหนังที่มีการนำแง่มุมในสังคม ศาสนา พุทธ ได้ดูดีเลยทีเดียว วันนี้เลยถือเป็นโอกาสดีที่ Ghost of Thailand จะมาเเนะนำให้รู้จักกับหนังเรื่องนี้กัน
เรื่องราวของ อาบัติ
ซัน (ชาลี ไตรรัตน์ หรือ แน็ค แฟนฉัน) เด็กหนุ่มเกเรวัย 19 ปี ถูกพ่อบังคับให้มาบวชเณรที่วัดต่างจังหวัดอย่างไม่เต็มใจ เพราะพ่อแม่ของคิดว่านี้คงเป็นเรื่องที่จะส่งผลดี ทำให้ลูกชายของเขามีพฤติกรรมที่น่าคบหามากขึ้น โดยมีหลวงพี่ทิน (กิก ดนัย จารุจินดา) เป็นเสมือนพระพี่เลี้ยงที่คอยดูแลเขาตั้งแต่วันแรก แต่อย่างไรก็ตามซันไม่อยากสุงสิงกับเณรรูปอื่น จึงขอพระอาจารย์ (หนุ่ม อรรถพร ธีมากร) ไปจำวัดอยู่กุฎิร้างท้ายวัด ที่นั่นห่างไกลจากผู้คน ไม่มีคนอยู่มานานแล้ว จะมีก็แต่คนบ้าประจำหมู่บ้าน (เอก สรพงษ์ ชาตรี)
ที่แอบมานอนอยู่ใต้ถุนกุฏิและขโมยข้าววัดกิน ต่อมา ซันได้รู้จักกับ ฝ้าย (พลอย ศรนรินทร์) เด็กสาวชาวบ้านหน้าตาน่ารักที่อาศัยอยู่กับยาย ทั้งสองได้ใช้เวลาร่วมกัน จนกลายเป็นตกหลุมรักกัน แน่นอนว่าการเป็นพระไม่ควรจะมีความสัมพันธ์กับเพศหญิง ซึ่งนำพาพวกเขาไปสู่การพัวพันกับเหตุการณ์ลึกลับที่ถูกปกปิดไว้ภายในวัดมานานนับปี ทั้งเรื่องราวความสัมพันธ์ของสีกาพิน (พิม พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์) กับพระภิกษุในวัด, การเผชิญหน้ากับผีเปรตที่ตามมาขอส่วนบุญ, รวมถึง “กรรม” ที่พวกเขากระทำกันขึ้นมาเอง กลายเป็นเรื่องราวที่พวกเขาไม่สามารถหลีกหนีได้เลย
กฎแห่งกรรมหนักแน่นเสมอในหนังเรื่องนี้
โดยรวมแล้ว เราคิดว่าหนังอาปัติสอนเรื่อง “กรรม” ทั้งรูปธรรมและนามธรรมให้ทั้งตัวละครและคนดูอย่างเราได้รู้แจ้งเห็นจริงในระดับหนึ่ง จัดว่าเป็นการเห็นมุมมองกฎแห่งกรรมที่มีความหนักแน่นจริงจังอย่างมาก แถมยังดูเพลินๆ อีกต่างหาก ถือเป็นหนังไทยเรื่องหนึ่งที่บทดีเลยทีเดียว เรื่องราวปะติดปะต่อผูกกันโอเค ไม่มีช่องโหว่หรือจุดที่ไม่สมเหตุสมผลเลย ทุกอย่างถูกวางแผนมาอย่างลงตัว ที่สำคัญเรื่องราวยังชวนคิดติดตามตลอดเรื่อง
ตามมาตรฐานหนังผีไทย พาร์ทผีในอาปัติจัดว่าน่ากลัวไม่ใช่น้อย ผีเปรตขอส่วนบุญออกไม่เยอะอย่างที่คิด แต่ผีอื่นๆ ที่ไม่รู้มาเพื่ออะไรนี่สิน่ากลัวมักจะโผล่มาสร้างเสียงกรี๊ดเสมอ สะดุ้งหลายช็อตเลย ทำให้ตกใจได้ตลอด คืออาจจะด้วยซาวนด์ประกอบด้วยส่วนหนึ่งที่ชวนเราหลอนไปก่อนภาพ เรียกได้ว่าเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของเรื่องจริงๆ แต่ที่สนุกจริงๆ คือ เราสนุกที่ถูกหนังหลอก เดาเรื่องกันแทบไม่ถูกจนเลิกเดา หนังมันหลอกคนดูแล้วหลอกคนดูอีก บางฉากนี่สะดุ้งเป็นคลื่นอาฟเตอร์ช็อค
โดยสรุป ความรู้สึกส่วนตัว ณ ขณะที่ดูและหลังดูอาปัติจบแล้ว อาปัติเป็นหนังไทยคุณภาพเรื่องหนึ่งที่คนไทยหรือชาวพุทธทุกคนควรดูเลยแหละ ถ้าไม่สนับสนุนหนังแบบอาปัติแล้วล่ะก็ ประเทศไทยคงมีแต่หนังรักกุ๊กกิ๊กหรือหนังแต๋วแตกแหกนะยะผลิตออกมาให้คนไทยบริโภคเพื่อความบันเทิงไปวันๆ อย่างเดียวจนเอียนไส้ ตัวหนังไม่ได้ตั้งใจทำลายภาพลักษณ์ของศาสนา แต่ทำให้เราเข้าใจมุมมองเรื่องกฎแห่งกรรมมากขึ้น