277 Views Report Error
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากการสังหารหมู่ Malmedyระหว่างที่ Bulge ภาพยนตร์เรื่องนี้นำแสดงโดยคอร์บิน ออลเรด ,อเล็กซานเดอร์ ไนเวอร์ ,ลอว์เรนซ์ แบ็กบีและปีเตอร์ แอสเล โฮลเดนรับบทเป็นทหารอเมริกันสี่นายที่พยายามส่งทหารอังกฤษพร้อมด้วยข่าวกรองที่สำคัญกลับคืนสู่แนวร่วมของฝ่ายสัมพันธมิตรระหว่างยุทธการที่นูนในปี 1944 ชาวเยอรมันเปิดฉากยิงเชลยศึกชาวอเมริกันของพวกเขา ในสิ่งที่เรียกว่าการสังหารหมู่มัลเมดีสังหารทหารจำนวนมากขณะที่พวกเขาพยายามหลบหนี Medic Steven Gould ( Alexander Niver ) สามารถหลบหนีได้พร้อมกับสิบโท Nathan ‘Deacon’ Greer ( Corbin Allred ) โกลด์และมัคนายกร่วมกับผู้รอดชีวิตอีกสองคน เชอร์ล เคนดริก ( แลร์รี แบ็กบี ) สมาชิกในแผนกของโกลด์ และจ่ากอร์ดอน กันเดอร์สัน เพื่อนสนิทของมัคนายก ( ปีเตอร์ แอสเซิล โฮลเดน ) ทั้งสี่คนสะดุดเข้ากับนักบินกองทัพอากาศ จ่าโอเบอรอน วินลีย์ ( เคอร์บี เฮย์บอร์น ) วินลีย์อธิบายว่าเขามีสติปัญญา ที่สำคัญเขาต้องกลับไปหาฝ่ายสัมพันธมิตรและกลุ่มตัดสินใจที่จะพยายามไปถึงเส้นฝ่ายสัมพันธมิตรซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 20 ไมล์ (32 กม.) กลุ่มต่อสู้กับกองทหารเยอรมัน พายุฤดูหนาว และความขัดแย้งส่วนตัวเพื่อส่ง Winley กลับไปยังดินแดนของพันธมิตร
ในด้านประวัติศาสตร์ประเด็นที่หนังเรื่องนี้ผิดอย่างมาก คือการไประบุว่าจ่ากันเดอร์สันกับดีคเป็นทหารพลร่มในกองพลอากาศโยธินที่ 101 บรรดาแฟนๆ ของ Band of Brothers น่าจะเข้าใจดีเพราะกองพลนี้เป็นกองพลเดียวที่กองร้อยอีซี่สังกัดอยู่นั่นเอง ซึ่งในตอนที่เยอรมันเริ่มยุทธการ Battle of the Bulge นั้น กองพลอากาศโยธินของอเมริกันทั้ง 2 กองพล คือ 82 และ 101 ยังอยู่ที่แนวหลัง แล้วมาถูกดึงให้ไปป้องกันเมืองบาสตอง จึงเป็นไปไม่ได้ที่เชลยศึกอเมริกันที่มัลเมดี้จะมีทหารพลร่มอยู่ด้วย ส่วนการสังหารหมู่เชลยศึกอเมริกันที่มัลเมดี้นั้น จะต่างจากภาพยนตร์เรื่อง The Battle of the Bulge ตรงที่ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว ทหารเยอรมันจงใจกราดปืนกลยิงทิ้งบรรดาเชลย ส่วนเรื่องราวในประวัติศาสตร์นั้น ยังไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจนว่าเกิดจากสาเหตุใด มีเชลยพยายามหนีหรือไม่ ภาพเหตุการณ์ที่ออกมาในเรื่อง Saints and Soldiers ที่ดูกึ่งๆ อุบัติเหตุนี้ ดูจะสอดคล้องกับแนวคิดหลักของภาพยนตร์ที่ต้องการเน้นความเป็นมนุษย์ของทั้งสองฝ่าย
แม้จะเป็นภาพยนตร์สงครามแนวดรามา แต่ในด้านอาวุธยุทธภัณฑ์ที่นำมาเข้าฉากนั้น ไม่ได้น้อยหน้าหนังสงครามแอคชันฟอร์มยักษ์สักเท่าไหร่เลย มีปืนมียานพาหนะหลากชนิดที่โผล่เข้ามาอย่างได้จังหวะ ไม่ใช่ต่างฝ่ายต่างยกพวกลุยเข้าใส่กันแบบเอามันไว้ก่อน ฉากส่วนใหญ่ที่เป็นป่าเขายามหิมะปกคลุม มีลำธารเป็นบางแห่งให้ภาพธรรมชาติที่งดงามเป็นอย่างยิ่ง ในส่วนของการทำซับไตเติ้ลภาษาไทยมีปล่อยไก่อยู่หน่อย ตอนที่บรรดาตัวเอกตื่นมาพบว่ารูดอล์ฟหายไปแล้วจ่ากันเดอร์สันถามว่า “Who had watched?” ดันไปแปลว่า “ใครมีนาฬิกา?” โชคดีที่ทีมพากย์เสียงภาษาไทยไม่บ้าจี้ตาม คือใช้ว่า “ใครอยู่เวรยาม?”จัดว่าเป็นหนังสงครามที่สวยงามทั้งภาพและแนวคิดครับ
ประเภท- สงคราม/แอคชั่น
ความยาว- 1 ชม. 30 นาที
ผู้กำกับ- ไรอัน ลิตเทิล
นักแสดง- Corbin Allred, Alexander Niver, Lawrence Bagby
วันออกฉาย- 11 กันยายน 2546