131 Views Report Error
บอกเล่าเรื่องราวของเด็กชายที่อาศัยอยู่ตามลำพังในสถานีรถไฟ Gare Montparnasseในกรุงปารีส ในช่วงทศวรรษที่ 1930 เพียงเพื่อเข้าไปพัวพันกับปริศนาที่ล้อมรอบ หุ่นยนต์อัตโนมัติของพ่อผู้ล่วงลับและ Georges Méliès ผู้สร้างภาพยนตร์ รุ่น บุกเบิกที่บ้านของจอร์ช จีนน์ ภรรยาของเขาอนุญาตให้พวกเขาเข้ามาได้หลังจากที่เรอเนจำได้ว่าเธอคือฌานน์ ดาลซี นักแสดงหญิงในภาพยนตร์หลายเรื่องของเมเลียส พวกเขาเล่นภาพยนตร์เรื่องนี้เพื่อปลุกจอร์ชส ผู้ซึ่งเชื่อมั่นในความสำเร็จของเขาในที่สุด แทนที่จะเสียใจกับความฝันที่สูญเสียไป จอร์ชเล่าว่าในฐานะนักมายากลละครเวที เขาหลงใหลในภาพเคลื่อนไหวและใช้ฟิล์มสร้างผลงานสร้างสรรค์ผ่านบริษัท Star Film Companyของเขา ถูกบีบให้ล้มละลายหลังสงคราม เขาปิดสตูดิโอและขายภาพยนตร์ของเขา เขาคร่ำครวญว่าแม้แต่หุ่นยนต์ที่เขาสร้างและบริจาคให้กับพิพิธภัณฑ์ก็สูญหายไป ฮิวโก้ตระหนักว่ามันคือตัวที่เขาซ่อมแซมฮิวโก้รีบวิ่งไปที่สถานีเพื่อเอาหุ่นยนต์กลับคืน แต่กุสตาฟจับได้ ซึ่งรู้เรื่องการตายของคลอดด์ กุสตาฟขู่ว่าจะพาฮิวโก้ไปสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ฮิวโก้วิ่งหนีและพยายามหลบหลีกกุสตาฟด้วยการซ่อนตัวที่ด้านนอกของหอนาฬิกา ยืนหยัดอยู่เหนือพื้นดินหลายร้อยฟุตอย่างล่อแหลม หลังจากปีนกลับลงมา ฮิวโก้รีบวิ่งเพื่อหนีออกจากสถานี แต่ดันหุ่นยนต์ตกบนราง เขากระโดดลงไปหยิบมันและเกือบจะถูกรถไฟทับ แต่กุสตาฟช่วยเขาและหุ่นกลไว้ได้ จอร์ชมาถึงและบอกกุสตาฟว่า “เด็กคนนี้เป็นของฉัน”
การที่หนังนั้นจะพยายามบอกคนดูว่า ‘ภาพยนตร์‘ นั้นก็เปรียบเสมือน มนท์วิเศษ ที่นักมายากลทั้งหลายเล่นให้เราดู และ ภาพยนตร์ นั้นก็เป็นสิ่งเดียวที่สามารถทำให้ฝันของเป็นจริงได้ ถึงแม้ว่ามันจะอยู่แต่ในหน้าจอก็ตาม ที่ถ้าท่านผู้อ่านได้อ่านข้อความข้างต้นไปอาจจะไม่รู้สึก เก็ท หรือ สัมผัส ได้เต็มที่ เพราะถ้าหากท่านผู้อ่านอยากจะสัมผัสความมหัศจรรย์ของคำว่า ภาพยนตร์ นั้นก็ต้องตีตั๋วไปดูหนังเรื่องนี้ และคุณจะพบว่าคำพูดเหล่านั้นที่ผมได้พูดออกมา ผู้กำกับ มาร์ติน สกอร์เซซี่ นั้นสามารถถ่ายทอดคำว่า ภาพยนตร์ ออกมาได้งดงามมากแค่ไหน แถมหลายๆฉากในหนังเรื่องนี้ก็ยังสามารถถ่ายทอดอารมณ์ความซาบซึ้ง และ ประทับใจ
ประเภทภาพยนตร์แนวแฟนตาซี/ผจญภัย
ความยาว 2 ชม. 7 นาที
ผู้กำกับ มาร์ติน สกอร์เซซี
วันออกฉาย 23 พฤศจิกายน 2554
นักแสดง Ben Kingsley