220 Views Report Error
หนังบอกเล่าเรื่องราวในประเทศเดนมาร์กหลังจากสงครามโลกครั้งที่สองได้สิ้นสุดลง เชลยศึกสงครามชาวเยอรมันนับพันคนได้ถูกปลดอาวุธและจับกุม ซึ่งในระหว่างช่วงสงครามนั้นเยอรมันได้เข้ายืดครองเดนมาร์กและได้วางกับระเบิดไว้ทั่วชายหาดฝั่งตะวันตกของประเทศเพื่อป้องกันไม่ให้ฝ่ายสัมพันธมิตรยกพลขึ้นบก หน้าที่ของเชลยศึกสงครามชาวเยอรมันทั้งหลายจึงไม่พ้นที่จะต้องทําการกู้กับระเบิดและทําให้ชายหาดนั้นกลับมาปลอดภัยเหมือนเดิม โดยก่อนที่พวกเขาจะไปปฏิบัติหน้าที่นั้นจะต้องผ่านการฝึกการกู้ระเบิดจากผู้กองเอ็บเบ้ นายทหารชาวเดนมาร์ก เมื่อเสร็จสิ้นจากการฝึกพวกเชลยเหล่านั้นก็จะถูกส่งตัวไปยังชายหาดต่างๆ เพื่อปฏิบัติภารกิจ โดยมีทหารเยอรมันจำนวนสิบคนได้ถูกส่งให้มาอยู่ในความรับผิดชอบของจ่าคาร์ลในการกู้ระเบิดในพื้นที่นั้นจํานวนหมื่นกว่าลูก แต่ว่าพวกเขาทั้งสิบคนนั้นยังเป็นเพียงเด็กหนุ่มวัยรุ่นที่ไร้ประสบการณ์เท่านั้นโดยมีผู้นํากลุ่มคือ เฮลมุท และเซบาสเตียน ซึ่งจ่าคาลบอกกับว่าถ้าพวกเขากู้ระเบิดจนครบทั้งชายหาดแล้วพวกเขาก็จะสามารถกลับบ้านที่เยอรมันได้ แรกเริ่มเดิมทีนั้นจ่าคาร์ลนั้นเกลียดชังพวกเยอรมันและปฏิบัติกับพวกเขาราวกับว่าไม่มีค่าอะไร แต่ต่อมาเมื่อร่วมกันทำงานนานเข้าความสัมพันธ์ของจ่าคาร์ลทหารชาวเดนมาร์กและเหล่าเชลยศึกวัยรุ่นชาวเยอรมันก็เริ่มพัฒนาขึ้นท่ามกลางการจับตามองจากผู้บังคับบัญชาLand of Mine หรือชื่อเดนส์คือ Under Sandet ถือได้ว่าเป็นหนังที่เกี่ยวกัสงครามโลกครั้งที่สองที่ซึ่งมีความแตกต่างจากหนังสงครามเรื่องอื่นๆ ตรงที่บอกเล่าในเรื่องราวของทหารเยอรมันที่ดูมีความเป็นคนธรรมดาๆ ไม่ได้เป็นปิศาจร้าย เราจะเห็นเชลยศึกทหารเยอรมันที่เป็นแค่เด็กหนุ่มที่เพิ่งก้าวพ้นวัยรุ่นมาหมาดๆ และไม่ประสีประสาต่อโลก คิดแต่เพียงจะกลับบ้านแถมยังร้องไห้คิดถึงแม่ ซึ่งตรงกันข้ามกับในหลายๆ เรื่องที่เราจะเห็นแต่พวกนาซีที่ชั่วช้าไล่เข่นฆ่าชาวยิวนับล้านคน หรือทรมานเชลยศึกอย่างโหดร้าย ในทางตรงกนข้ามเรื่องนี้เราจะเห็นด้านมืดของชาวเดนมาร์กที่ถือเป็นชาติที่เป็นเหยื่อในระหว่างสงครามที่เกลียดชังทหารเยอรมันโดยไม่สนว่าจะเป็นเพียงแค่เด็กน้อยหรือไม่ โดยพวกเขาปฏิบัติกับเชลยเหล่านั้นต่ำยิ่งกว่าสุนัขเสียอีก โดนใช้งานทั้งวันแถมยังต้องอดอยากโดยไม่ให้อะไรกินแม้แต่นิดเดียว ทั้งๆ ที่เด็กวัยรุ่นพวกนั้นอาจจะไม่เคยทำอะไรให้กับชาวเดนส์เลยก็ได้และที่มาอยู่ที่นี่อาหารที่เป็นพิษมาแอบทิ้งไว้จงใจให้เชลยมาขโมยก็เพราะถูกเกณฑ์เข้ามา แม้แต่ชาวบ้านเองยังเอาไปกินจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่เราก็สามารถเข้าใจความรู้สึกของชาวเดนมาร์กได้ว่าจะเก็บกดขนาดไหน อีกประเด็นนึงคงเป็นเรื่องชื่อของหนังLand of Mine ซึ่งอาจตีความได้หลายความหมายถ้าความหมายแรกคงเป็นไปตามตัวหนังคือ แผ่นดินที่เต็มไปด้วยกับระเบิด ในเรื่องเราจะเห็นความสูญเสียที่เกิดจากการกู้ระเบิดที่ผิดพลาดที่ทำให้เชลยศึกต้องค่อยๆ ตายไปทีละคนสองคน อีกความหมายนึงคงจะเป็นในความหมายที่ว่า ที่นี่คือดินแดนของฉัน(ชาวเดนมาร์ก) ที่ในเรื่องเราจะเห็นความเกลียดชังของชาวเดนส์ต่อศัตรูผู้เคยคุกคามประเทศ อย่างเช่นในฉากหนึ่งที่มีเชลยถือธงชาติเดนมาร์กแล้วจ่าคาร์ลขับรถผ่าน เขาจึงหยุดรถแล้วเข้าไปทำร้ายร่างกายเชลยคนนั้นเพราะรู้สึกว่าเชลยไม่มีสิทธิมาถือธงชาติของเขา พอทำร้ายร่างกายเสร็จเขาก็ตะโกนไล่ไปว่า พวกแกไสหัวไปจากประเทศนี้ซะและอีกความหมายนึงก็หมายถึง ในแง่ว่าที่นี่คือดินแดนของฉัน (พวกเด็กๆ เชลยชาวเยอรมัน) ที่พวกเขารู้สึกปลอดภัยจากความเกลียดชังของชาวเดนส์ แม้จะไม่ปลอดภัยในแง่ความเสี่ยงต่อการตายจากระเบิดก็ตาม พวกเขาแทบจะอยู่กันตามลำพังและทํางานกันอย่างแข็งขัน แถมบางครั้งยังมีโอกาสได้เล่นสนุกผ่อนคลายกันในบางครั้ง ส่วนในเรื่องของความสมจริงในการถ่ายทํา พูดได้คําเดียวครับสมจริงมากๆ ยิ่งตอนกู้ระเบิดแล้วมีเพลงประกอบร่วมนะทำให้เราร่วมลุ้นกับเด็กๆ ไปด้วยเลย แถมยังมีบางช่วงที่ไม่ใช้เสียงประกอบแต่ก็สามารถกระชากอารมณ์แห่งความเศร้าสลดให้กับเราได้เป็นอย่างดี ดูหนังใหม่