เคาะสองที อย่าให้ผีเข้าบ้าน หนังผีที่ใช้เรื่องราวขของตำนานสยองขวัญพื้นเมือง แน่นอนว่าดูหน้าหนังเชื่อว่าทุกคนคงคิดว่าเป็นหนังเกรดบี ไม่ได้มีความน่ากลัว หรือน่าสนใจแต่อย่างใด ด้วยรายชื่อทีมงานที่เราไม่รู้จักเลยสักคน ทั้งผู้กำกับ คาราดอก ดับบริว. เจมส์ คนเขียนบท มาร์ค ฮักเคอร์บี กับ นิค ออสทเลอร์ ซึ่งทั้งหมดไม่มีผลงานที่เคยเข้าบ้านเราให้ได้จดจำเลย เป็นหนังที่รวมพลนักแสดงที่ไม่ได้คุ้นหน้าสักเท่าไร ที่ดูมีเครดิตใช้ได้บ้างก็มีเพียงสองนักแสดงนำอย่าง เคที แซคฮอฟ
ที่เคยได้รางวัลจากการเล่นเป็นนักแสดงสมทบในทีวีซีรีส์เรื่อง Battlestar Galactica (2004) และผ่านหน้าผ่านตาในหนังใหญ่อย่าง Riddick (2013) และ Oculus (2013) กับอีกหนึ่งนักแสดงนำอย่าง ลูซี่ บอยน์ตัน ที่เพิ่งมีบทนำในหนังเพลงฮิตอย่าง Sing Street (2016) ของผู้กำกับ จอห์น คาร์นีย์ นอกนั้นก็เป็นนักแสดงที่มีแต่ชื่อไม่คุ้น แต่บอกเลยว่าฝืมือการแสดงก็จัดว่าไม่น้อยหน้าใคร แต่หลายคนอาจจะไม่เชื่อว่านี้เป็นหนังอีกเรื่อง ที่มีเรื่องราวชวนให้ติดตามไม่แพ้หนังผีฟอร์มใหญ่เลยแม้แต่น้อย พวกเรา Ghost of Thailand จึงต้องขอแนะนำ
Don’t Knock Twice รวมหนังแสดงมากฝืมือที่อยากให้ได้รู้จัก
ไฮไลท์นักแสดงที่เล่นเป็นผีของหนังสำหรับคอหนังสายผีปีศาจ อาจเป็นนักแสดงสเปน ฮาเวียร์ โบเทต ที่หาหน้าในกูเกิ้ลดูก็คงไม่คุ้น เพราะพี่แกนิยมเล่นเป็นตัวผีเป็นหลักเลย ถ้าวงการโมชั่นแคปเจอร์มี แอนดี้ เซอร์คิส เป็นไอคอน วงการผีก็มีโบเทตนี่ล่ะเป็นไอดอลเช่นกัน ด้วยผลงานมากมายที่เธอฝากไว้ Mama (2013) หรืออย่างใน The Conjuring 2 (2016) แน่นอนว่าฝืมือการเล่นของเธอก็ที่พูดถึงในหมู่แฟนหนังผีไม่น้อย
แม้แต่ในหนังดราม่าออสการ์อย่าง The Revenant (2015) พี่แกก็ยังมาเล่นเป็นภาพหลอนในฝันร้ายอีก เอาเข้าไปสิ เรียกได้ว่าประสบการณ์เล่นเป็นผีนี้เต็มกราฟ โดยสไตล์พี่ที่เล่นบ่อยๆก็มักจะเป็น ผีที่มีลักษณะ นิ้วยาว ดูโทรมๆ น่ากลัวแอบหลอน ตามสไตล์หนังผีทั่วไปในตลาด ที่มักมายืนเป็นเงามุมห้องบ้าง มาในซีนที่คาดไม่ถึง ทำให้มั่นใจได้เลยว่าผีในเรื่องนี้ไม่ต้องห่วงเลยว่าตัวผีจะเล่นแบบไม่โปรเพราะประสบการณ์อย่างแน่น
เรื่องเล่าจากตำนานพื้นบ้านในต่างประเทศ
Don’t Knock Twice เป็นหนังสยองที่ดัดแปลงจากเรื่องเล่าท้องถิ่น หรือพวกตำนานพื้นบ้าน ที่เป็นความเชื่อของคนประเทศอื่น ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับหนังอย่าง Candyman และ The Blair Witch ที่เป็นตำนานพื้นเมืองของชุมชนซึ่งมาคราวนี้ก็เอาพวกแม่มดมาเล่นกันอีกเรียกได้ว่าเป็นแนวเรื่องที่หลายคนคุ้นเคยกันอย่างดี ว่าด้วยครอบครัวสองแม่ลูกอย่าง เจส (เคที) และ โคลอี้ (ลูซี่) ซึ่งได้กลับมาพบกันอีกครั้งหลังจากเจสได้ทิ้งลูกไว้ที่สถานสงเคราะห์ตั้งแต่เมื่อ 9 ปีก่อนเพราะเธอมีปัญหาบางอย่างที่ไม่อาจเลี้ยงดูลูกสาวได้ แน่นอนโคลอี้กลายเป็นเด็กมีปัญหาที่ต่อต้านเจสซึ่งปัจจุบันได้ดิบได้ดีจากอาชีพศิลปินนักปั้นของเธอ
เรื่องราวของหนังจะเริ่มต้นที่ตัวละครอย่าง โคลอี้ เคยมีเพื่อนสมัยเด็กที่สถานสงเคราะห์ชื่อไมเคิล และแดนนี่ ตอนพวกเธออายุ 10 ขวบ ไมเคิลได้หายตัวไป เธอและแดนนี่กล่าวร้ายหญิงชราที่อยู่บ้านใกล้กันว่าเป็นแม่มดและคือตัวการที่ทำให้เพื่อนพวกเขาหายไป ถึงพิสูจน์ไม่ได้แต่เสียงลือเสียงเล่าอ้างก็กดดันจนทำให้หญิงชรานั้นฆ่าตัวตาย ไม่ว่าจะแท้จริงอย่างไร นับว่าเป็นเหตุการณ์ที่น่าสลดอย่างมาก จนเกิดกลายเป็นเรื่องเล่าในเมืองตามมาว่าใครที่มาเคาะประตูบ้านหญิงชรานี้สองครั้ง จะถูกปีศาจมาตามเอาชีวิต จนกลายเป็นเรื่องเล่าปากต่อปาก
ซึ่งในคืนหนึ่งแดนนี่ก็ชวนโคลอี้มาเพื่อทำลายภาพมายาหลอนใจในอดีตโดยการเคาะประตูบ้านหญิงชรา เป็นการท้าทายซึ่งไม่ค่อยจะควรเท่าไร แน่นอนว่ามันก็ส่งผลให้โคลอี้จำใจต้องขอมาอาศัยบ้านของแม่เธอเพราะจนหนทาง จากการโดนหลอกหลอนจากสิ่งที่ไม่เห็นในขณะที่ปัญหาระหว่างแม่ลูกก็ยังไม่เคลียร์ปัญหาผี ๆ สาง ๆ ก็มาวนเวียนรอบตัวอีก จะจบอย่างไรผู้ชมก็ต้องลองไปรับชมกันด้วยตัวเอง
มีจุดเด่นและเรื่องราวที่น่าสนใจไม่น้อย
ตัวหนังก็มีเอกลักษณ์ให้ตนเองต่างจากบรรดาสรรพหนังสยองขวัญทั้งหลายที่พลอตใกล้ ๆ กันคือ หนังค่อนข้างซ่อนความลับของแต่ละตัวละครไว้มาก เป็นจุดแข็งสำคัญเลยว่าเราไม่สามารถคาดเดาเรื่องราวได้แม้แต่น้อย ตั้งแต่ฉากเปิดตัวเจสเองก็ดูไม่ปกตินัก เรียกว่าทุกคนดูน่าสงสัยไปหมดดีกว่า จนกระทั่งหนังค่อย ๆ เผยความลับออกมามากขึ้น จนปริศนาต่างๆก็คอยคลี่คลายออกมา ให้เราตัดตัวเลือกของปีศาจตัวจริงไปทีละนิด ๆ ว่ามันคือใครและคืออะไร แต่สุดท้ายผลลัพธ์กทำเอาหลายคนต้องหงายเงิบ จนกระทั่งหนังเฉลยหมดเปลือกก็พบว่า หนังหลอกเราซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเดาไม่ถูก เรียกว่าหลอกคนดู มากกว่าผีหลอกตัวละครในเรื่องซะอีก นับว่าเป็นชั้นเชิงการเล่าเรื่องที่แปลกใหม่อย่างมาก และเป็นจุดแข็งสำคัญที่สุด
ด้านฉากสยองก็ค่อนข้างตามมาตรฐานไม่มีอะไรให้หวือหวาแปลกใหม่ แต่ก็ไม่ได้ถึงกับชวนเบื่อหน่าย สามารถรับชมได้แบบเพลินๆ มีการใช้กิมมิกเรื่องเสียงเคาะประตูสองครั้งได้สนุกดี โดยเฉพาะที่สองแม่ลูกช่วยกันจัดการประตูทั้งบ้าน ก็เออดูมีอะไรดี การแสดงของนักแสดงก็เป็นไปตามที่ควรเป็นทั้งฉากดราม่าและฉากสยอง มีแหว่ง ๆ โหว่ ๆ บ้างก็คงเป็นการเล่าเรื่องเชื่อมบางฉากที่ยังสะดุด ๆ หาย ๆ ชวนตั้งคำถามว่าบทพลาดหรือเปล่าอยู่ แต่ก็ไม่ร้ายแรง เพราะช่วงเฉลยก็กลบข้อสงสัยลงได้เนียนอยู่ อีกอย่างคือการตัดต่อบางช่วงก็ดูสับสนว่าเกิดอะไรขึ้น และเน้นฉากมืดค่อนข้างเยอะดูลำบากเหมือนกัน
โดยรวมก็ต้องบอกว่าเป็นหนังสยองขวัญตามมาตรฐานเลยครับ ในพลอตด้านดราม่านั้นก็ขับเน้นพอประมาณแต่ก็ไม่ได้กะเอาดีในด้านนี้จนเด่นนำ พลอตด้านสยองขวัญก็ไม่ได้มีฉากหลอกหลอนหรือแหวะ ๆ ให้ติดตาอะไร จังหวะตกใจมีบ้างแต่ก็ไม่ถึงกับสะดุ้งแรง แต่ก็นับว่าสนุกพอได้ลุ้น ส่วนที่เด่นของหนังเลยคงเป็นหนังสยองขวัญแนวสืบสวนนั่นล่ะครับ ที่คนดูต้องคิดตามเดาตามอยู่เรื่อย ๆ ให้เราได้ติดตามปริศนาตั้งแต่ต้นไปจนจุดจบของเรื่องราว จนถึงบทสรุปที่ช่วยปิดช่องโหว่ในบางฉากได้ดี กลายเป็นออกทะเลแล้วเข้าฝั่งอย่างสวยงาม ดูเอาเพลิน ๆ ได้สนุก ตามสไตล์หนังป็อปคอน จึงทำให้ Don’t Knock Twice เคาะสองที อย่าให้ผีเข้าบ้าน เป็นอีกหนังที่อยากให้มาลองรับชมกันครับ เพราะฉะนั้น ไม่ควรพลาด โดยเฉพาะคอหนังผีที่ชื่นชอบการสืบสวน