หลังจากที่ลุงบอดได้ฝากความลุ้นระทึก ทำให้ผู้ขมทั้งโลกได้พบกับรูปแบบหนังที่มีความแปลกใหม่ ไว้ในหนังแอ็กชันทริลเลอร์ ‘Don’t Breathe’ ภาคแรกเมื่อปี 2016 โน่น จนสามารถทำกำไรอื้อซ่าได้แบบพลิกความคาดหมาย ฟาดรัว ๆ 157 ล้านเหรียญ จากทุนสร้างแค่ 10 ล้านเหรียญ นับว่าเป็นอีกหนึ่งผลงานหนังที่ไม่ธรรมดาสุดเจ๋ง เพราะการที่หนังงบน้อย สามารถทำกำไรได้มาก มันเป็นอะไรที่เจ๋งพอตัว จนใครจะไปคิดว่าเรื่องราวของ ลุงบอด ‘นอร์แมน’ กลับมาอีกครั้งกับเรื่องราวการผจญภัยใหม่เอี่ยมและใหญ่กว่าเดิมที่สำคัญยังมีมิติเรื่องราวของลุงบอด ใน ‘Don’t Breathe 2’ หรือ ‘ลมหายใจสั่งตาย 2’ โดยในครั้งนี้เรื่องราวที่ถูกเพิ่มเติมเข้ามาใหม่ มันน่าจะน่าสนใจแค่ไหน วันนี้ Ghost of Thailand จะแนะนำให้ได้รู้จักกัน
อีกหนึ่งผลงานชั้นยอดจากผู้กำกับชั้นเยี่ยม
ภาคนี้ยังคงขนทีมงานและนักแสดงชุดเดิมกลับมาทำงานกันอีกครั้ง เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งทีมคุ้นหน้าคุ้นตา ทั้งผู้อำนวยการสร้าง ‘แซม ไรมี’ (Sam Raimi) ผู้กำกับไอ้แฟรนไชส์แมงมุมโซนี่ และ ‘โรเบิร์ด ทาเพิร์ต’ (Robert Tapert) ผู้อำนวยการสร้างร่วมหนังผีอมตะตลอดกาล ‘The Evil Dead’ ก็กลับมานั่งแท่นคุมเช่นเคย ส่วน ‘เฟเด อัลวาเรซ’ (Fede Alvarez) ผู้กำกับจากภาคแรก ‘โรโด ซายาเกวซ’ (Rodo Sayagues) ก็ยังคงจับมือกันเขียนบทเหมือนเคย ทำให้ไว้ใจในส่วนงานบทได้เลย แต่คราวนี้ เฟเดขอแตะมือให้ ‘โรโด ซายาเกวซ’ สลับลงมานั่งแท่นกำกับในภาคนี้แทน และแน่นอนว่า ‘สตีเฟน แลง’ (Stephen Lang) ก็ยังกลับมารับบทลุงบอดยอดนักสู้ คนอึดผู้ไม่รู้จักคำว่าตายอีกครั้งเช่นเคย ซึ่งต้องบอกเลยว่าภาคแรกว่าเดือดแล้ว ภาคนี้เดือดกว่าเดิม
ดำเนินเรื่องต่อจากภาคก่อน
เรื่องราวในภาคนี้ก็ยังคงเดินเรื่องผ่านลุงบอด ‘นอร์แมน นอร์ดสตอร์ม’ (Stephen Lang) อดีตทหารผ่านศึกสงครามตาบอดสุดแกร่ง ที่ต้องอาศัยอย่างโดดเดี่ยวหลังจากการที่เขาต้องสูญเสียลูกสาวไป ที่เคยลุยเดี่ยวกำจัดโจรปล้นบ้าน 3 คน ในภาคก่อน ที่ต้องการเข้ามาขโมยเงิน เหตุการณ์ผ่านมาหลายปี ลุงบอดได้ย้ายไปอยู่บ้านหลังใหม่อย่างสันโดษเพื่อต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุข พร้อมกับ ‘ฟีนิกซ์’ (Madelyn Grace) เด็กหญิงกำพร้าที่ลุงบอดรับมาเลี้ยงเพราะว่าพ่อแม่ของเธอเสียชีวิตจากเหตุไฟไหม้บ้าน แต่แล้วก็มีเหตุเมื่อเมืองที่พวกเขาอาศัยอยู่มีข่าวแก๊งอาชญากรรมค้าอวัยวะ และพวกมันกำลังมาลักพาตัวน้องฟีนิกซ์ไป ลุงบอดจึงต้องออกโรงตามล่าเพื่อช่วยฟีนิกซ์ให้ได้ พร้อมกับการเผชิญหน้ากับความผิดบาปในอดีตของตัวเขาเองด้วย เรียกได้ว่าเป็นการดำเนินเรื่องอีกสไตล์
ในภาคที่แล้วจะทำให้เรารู้สึกว่าลุงบอดนั้นเป็นชายแก่โรคจิต เป็นปีศาจที่น่ากลัว โคตรอึด โคตรถึก โคตรตายยาก แต่สิ่งที่ถือว่าแตกต่างออกไปจากภาคที่แล้วอย่างสิ้นเชิงแล้ว ในภาคนี้เราจะได้เห็นเรื่องราวและความรู้สึกเข้าไปในจิตใจของลุงบอดมากขึ้นจากภาคก่อนอีกพอสมควรเลยครับ ทำให้เราสัมผัสได้เลยว่า เขาไม่ใช่แค่คนตาบอดที่ชอบความรุนแรง หลายคนพอทราบว่า ลุงบอดในภาคนี้จะพลิกมาเป็นพระเอกเพื่อปกป้องน้องฟีนิกซ์ แต่จริง ๆ แล้วในความคิดผู้เขียน ลุงแกก็ไม่ได้ถึงขนาดกับเป็นพระเอกอะไร เขายังมีความดิบเถื่อนเหมือนเดิม
ไม่มีเปลื่ยนแปลงไปจากเดิมเลยแม้แต่น้อย โดยรวมแล้ว แม้ความยาวของภาคนี้จะใกล้ ๆ กับภาคแรก สิ่งที่ผู้เขียนรู้สึกว่าแตกต่างอีกอย่างหนึ่งก็คือ จังหวะการเดินเรื่องที่ค่อยเป็นค่อยไป ในภาคที่แล้วนี่คือเดินเรื่องเร็วแบบสับตีนแตก ส่วนในภาคนี้ดูจะมีจังหวะผ่อนมากขึ้น แต่แม้จะเดินเรื่องช้าลง แต่ก็ไม่ได้ย้วยยืดยาดจนผิดปกติ ที่สำคัญยังช่วยให้เราติดตามเรื่องราวได้ง่าย การเดินเรื่องช้าก็ทำให้การดำเนินเรื่องมีความตึงเครียดและลุ้นมากยิ่งขึ้น อย่างเช่นจังหวะที่ต่อสู้กันในบ้าน ที่มีการใช้ช็อตลองเทกเข้ามาเดินเรื่อง ซึ่งก็สามารถทำได้อย่างสวยงามและตื่นเต้นไม่น้อยเลยครับทำให้ Don’t Breathe 2 เป็นอีกหนึ่งระทึกขวัญที่คุณไม่พลาด